เป็นโรคมาแล้วประกันไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อนและโรคที่สืบเนื่อง

สวัสดีค่ะ วันนี้มาพบกับคอนเท้นท์ฮาร์ดคอร์กันอีกแล้ว เป็นคอนเท้นท์ที่ลูกค้าหลายๆคนต้องยอมรับความจริงและทำใจค่ะ เราจะมาพูดถึงเรื่อง ประกันไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อนการทำประกันกันรวมถึงโรคที่สืบเนื่องและภาวะแทรกซ้อนค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจคำว่า “เคยรักษา” กับ “แค่ตรวจเจอ” กันก่อนนะคะว่า 2คำนี้ มีค่าเท่ากันค่ะ ลูกค้าแนนหลายๆคนบอกว่า พี่ไม่ได้เป็นโรคนี้นะ ทำไมบริษัทมีข้อยกเว้นไม่คุ้มครองล่ะ งงมากโรคนี้มาได้ไง พี่แค่เคยตรวจเจอแต่ไม่ได้รักษา เพราะหมอบอกไม่อันตรายและไม่มีผลต่อการใช้ชีวิต

ที่หนักกว่านั้นคือ พี่ไม่ได้เป็นโรคนี้นะคะ พี่แค่รู้สึกเหมือนจะเป็นก็เลยขอยาจากคุณหมอมากิน แต่ตอนนี้ไม่กินแล้วเพราะหายแล้ว….หัวจะปวดมากค่ะ

แนนต้องอธิบายตามตรงว่าเวลาที่บริษัทตรวจสอบประวัติและออกข้อเสนอยกเว้นความคุ้มครองออกมานั้น เขาไม่ได้ฟังจากคำพูดของลูกค้าว่าเป็นหรือไม่เป็น แต่เขาดูจากประวัติการรักษา ผลแลป ผลตรวจเลือด ผลเอ็กซ์เรย์ต่างๆ และคำวินิจฉัยของแพทย์เท่านั้น ย้ำว่าดูจากเอกสารทางการแพทย์เท่านั้น!

ฉะนั้นการไปหาหมอแต่ละครั้งการซักประวัติของหมอ และคำแถลงประวัติสุขภาพของเรา จะถูกบันทึกทุกอย่างลงไปในเอกสารทางการแพทย์และกลายเป็นประวัติการรักษาทั้งหมด ที่จะถูกนำมาพิจารณากรมธรรม์ค่ะ ไม่ว่าลูกค้าจะบอกว่าไม่เป็นแค่ไหน แต่ถ้ามีประวัติในเอกสารทางการแพทย์ก็คือเป็นค่ะ ไม่มีคำว่า “เป็นมาก” หรือ “เป็นน้อย” เป็นก็คือเป็นค่ะ

ที่นี้เรามาดูกันต่อว่าถ้าบริษัทออกข้อเสนอไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อนแล้ว แล้วโรคที่สืบเนื่องล่ะ คืออะไร…ก็ต้องบอกเลยค่ะว่าพิจารณาจากเอกสารทางการแพทย์อีกเหมือนกัน เช่น ความดันขึ้นแล้วแอดมิทเข้าโรงพยาบาลจนสุดท้ายเส้นเลือดในสมองแตก แล้วหมอลงความเห็นว่าเส้นเลือดในสมองแตกเนื่องจากความดันขึ้นสูง แบบนี้ ภาวะเส้นเลือดในสมองแตก ก็เข้าข่ายเป็นโรคที่สืบเนื่องจากความดันค่ะ

ซึ่งในที่นี่แนนขอยกตัวอย่างคำว่า “รวมไปถึงภาวะแทรกซ้อน” ไปด้วยเลย จากตัวอย่างข้างต้น ถ้าหลังจากเส้นเลือดในสมองแตกแล้วเป็นอัมพาต แบบนี้อัมพาตก็คือภาวะแทรกซ้อนจากเส้นเลือดในสมองแตกที่เป็นผลสืบเนื่องมากจากความดันโลหิตสูงค่ะ

ซึ่งจากตัวอย่างที่กล่าวมา ถ้ากรมธรรม์นั้นๆยกเว้นความคุ้มครองโรคความดันโลหิตสูง ในเคสนี้ก็จะไม่สามารถเคลมอะไรได้เลยทั้งความดัน เส้นเลือดสมอง และอัมพาตค่ะ

ทั้งหมดทั้งมวลนี้มาจากประสบการณ์ที่แนนได้เจอลูกค้ามาหลากหลายรูปแบบค่ะ แต่อยากบอกไว้ว่าเราจะไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้เลยถ้าเราเริ่มทำประกันในวันที่ เราสุขภาพแข็งแรง และจะได้รับความคุ้มครองเต็มที่ในอัตราเบี้ยที่จ่ายเท่าคนอื่นค่ะ